เชื่อมต่อมือถือเข้ากับทีวี ด้วย ส่าย HDMI และ Adaptor HDMI หรือสาย MHL
คุณสามารถนำสาย HDMI เสียบกับ Adaptor HDMI หรือสาย MHL ระหว่างมือถือกับทีวี แค่นี้ก็ชมออกจอทีวีได้แล้ว
ข้อดี
ไม่ต้องมี WiFi ก็ขึ้นจอทีวีได้ แค่เสียบกับ Adaptor HDMI โดยตรง
สามารถชาร์จไฟระหว่างขึ้นจอทีวีได้
ข้อเสีย
ไม่สามารถสลับแอปอื่นได้ ดูได้ตามที่ปรากฎหน้าจอมือถือ
เครื่องร้อนไว
ใช้ได้เฉพาะมือถือที่รองรับออกจอทีวีด้วยสาย MHL ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมือถือระดับเรือธง ราคาแพงสเปคแรง
เชื่อมต่อมือถือเข้ากับทีวี ด้วย Chromecast
คุณสามารถใช้มือถือ iPhone หรือ Android เครื่องไหนก็ได้ สั่ง Cast ขึ้นจอทีวี ผ่านอุปกรณ์ ตัวเล็กชื่อว่า Chromecast
ข้อดี
ดูผ่านแอปที่ใช้กับ chromecast หลายตัว
ไม่ต้องเสียบสายระหว่างคอมกับมือถือ
สามารถแยก 2 จอ โดยมือถือแสดงจออื่น และทีวีเล่นวีดีโออย่างต่อเนื่องได้
ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android ไม่ว่าจะราคาถูก ราคาแพง ไม่มีพอร์ตออกจอ MHL ก็ใช้ได้
ราคาถูกหาซื้อง่าย
ข้อเสีย
ต้องมี wi-fi อินเทอร์เน็ตบ้าน ถึงใช้ ChromeCast ได้ และต้องอยู่ใน Wi-Fi วงเดียวกัน
มือถือที่ใช้ Chromecast ได้ต้องเป็นเวอร์ชั่น Android 5.0 ขึ้นไป และ iOS 11.0 ขึ้นไป
เชื่อมต่อมือถือเข้ากับทีวี ด้วย Android TV
สามารถใช้ Android หรือ iOS สั่ง cast ขึ้นทีวีแบบ Android TV ได้ รองรับทั้งมือถือ iPhone หรือ Android โดย Chromecastbuilt-in ในทีวีแล้ว
ข้อดี
ดูผ่านแอปที่ใช้กับ chromecast หลายตัว
ไม่ต้องเสียบสายระหว่างคอมกับมือถือ
สามารถแยก 2 จอ โดยมือถือแสดงจออื่น และทีวีเล่นวีดีโออย่างต่อเนื่องได้
ใช้ได้ทั้ง iOS และ Android ไม่ว่าจะราคาถูก ราคาแพง ไม่มีพอร์ตออกจอ MHL ก็ใช้ได้
ข้อเสีย
ต้องมี wi-fi อินเทอร์เน็ตบ้าน หรือสายเน็ตเข้ากับทีวี ถึงใช้ ChromeCast บน Android TV ได้
มือถือที่ใช้ Chromecast ได้ต้องเป็นเวอร์ชั่น Android 5.0 ขึ้นไป และ iOS 11.0 ขึ้นไป
ไม่สามารถแคสบางแอปขึ้นจอทีวีได้ เหมือน Chromecast
สรุปแล้วเป็นข่าวดีมากๆสำหรับมือถือ Android ราคาถูกก็สามารถสั่งขึ้นจอใหญ่ได้ แม่ไม่มีฟีเจอร์ออกทาง HDMI หรือ MHL ก็ตาม เพียงแค่ซิ้อสมาร์ททีวี Android TV สักเครื่อง หรือ ใช้ Chromecast มาเสียบทีวี ก็ใช้ได้แล้ว
ภาพปก : Gerd Altmann จาก Pixabay
ที่มา https://www.it24hrs.com/2019/smartphone-to-tv/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น