นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กรมศุลกากรเพิ่งตรวจรับมอบและติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คร่อมสายพาน 23 เครื่อง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ คาดว่าจะพร้อมใช้งานภายในปลายปีนี้ ซึ่งจะสแกนกระเป๋าเดินทางทุกใบ ตรวจสอบการนำเข้าวัตถุต้องห้าม ยาเสพติด รวมทั้งสินค้าแบรนด์เนมได้ โดยไม่ต้องสุ่มตรวจเปิดกระเป๋าเหมือนในอดีต และใช้ AI ในการการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงและวิเคราะห์ภาพถ่ายเอ็กซ์เรย์สินค้า เพิ่มความสามารถตรวจจับสินค้าผิดกฎหมาย และสินค้าหนีภาษี
“อัตราภาษีศุลกากร หากเป็นการนำเข้านาฬิกาเข้ามา เสียอากรนำเข้า 5% และภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% แต่หากเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเสีย 30% และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งปกติหากไปซื้อเมืองนอกก็ได้รับการคืนภาษี 20% อยู่แล้ว ก็เข้ามาเสียในประเทศเพิ่มอีก10% ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้มาก” นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าว
ข้อมูลจาก PostToday
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น