วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2562

ธัมมราชิกสถูป หรือ “ธรรมราชิกสถูป” อนุสรณ์สถานแห่งการแสดง #อนัตตลักขณสูตร

ธัมมราชิกสถูป หรือ “ธรรมราชิกสถูป”
อนุสรณ์สถานแห่งการแสดง #อนัตตลักขณสูตร
ธัมมราชิกสถูป หรือ “ธรรมราชิกสถูป”
(สถูปซึ่งเป็นอนุสรณ์ถึงพระธรรมราชาหรือพระพุทธเจ้า)
ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี ปัจจุบันเรียกว่า สารนาถ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
ปัจจุบันเหลือเพียงซากฐานสถูปเท่านั้น
โดยตัวสถูปได้ถูกรื้อถอนเพื่อนำอิฐออกไปใช้ในการก่อสร้างอย่างอื่น
สำหรับพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุไว้ในองค์สถูปนั้น ก็ได้ถูกอัญเชิญไปทำพิธีลอยบาปในแม่น้ำคงคาตามความเชื่อของพราหมณ์
อาณาบริเวณธัมมราชิกสถูปนี้กว้างขวางมาก สามารถเดินติดต่อไปยัง ธัมมเมกขสถูป (อนุสรณ์สถานแห่งการแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร) ได้
และตั้งอยู่ไม่ห่างจากบริเวณ พระมูลคันธกุฏีวิหาร
โดยได้สร้างขึ้นในสมัยเดียวกันกับการสร้างธัมมเมกขสถูป
บริเวณฐานสถูปเป็นลานหินอยู่ในบริเวณสนามหญ้า มีที่นั่งพอนั่งได้ ๓๐ คน ห่างจากธัมมเมกขสถูปไปทางด้านทิศตะวันตกประมาณ ๓๐๐ เมตร
เชื่อกันว่า ธัมมราชิกสถูปเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้า ทรงประทับจำพรรษาในช่วงฤดูฝนแรก หลังจากทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว
ธัมมราชิกสถูปสร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์ในสถานที่ที่เชื่อว่า เป็นที่ประทับแสดงทุติยเทศนา คือ “อนัตตลักขณสูตร” โปรดแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕
หลังจากวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดง “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร”
คือพระสูตรว่าด้วยการหมุนกงล้อแห่งพระธรรม อันเป็นพระสูตรแรกในพระพุทธศาสนาแล้ว
ประวัติแสดงไว้ว่าหลังจากที่โปรดอัญญาโกณทัญญะ จนได้บรรลุโสดาปัตติผลแล้ว ทรงโปรดปัญจวัคคีย์คนอื่นๆ อีก คือ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ ในวันต่อๆ มา ทั้ง ๔ ท่านได้บรรลุโสดาปัตติผลและทูลขอบวช
และในวันแรม ๕ ค่ำ เดือน ๘ นั่นเอง
พระพุทธองค์ได้ทรงแสดง “อนัตตลักขณสูตร” โปรดแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕
ทำให้ทั้งหมดได้เข้าใจชัดเจนถึงความเป็นอนัตตา ความไม่ใช่ตัวตนถาวรเที่ยงแท้ของขันธ์ ของสังขารธรรม
ทำให้ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ สามารถเพิกถอนอุปทาน อาสวะในจิตของตนได้
และได้บรรลุเป็นพระอรหันต์พร้อมกันเป็นครั้งแรกของโลกในที่สุด




Cr.พระสนิทวงศ์ วุฒิวํโส



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น